ในอดีตกฎเกณฑ์และการมีมารยาทจะเป็นสิ่งที่เข้มงวดเอามาก ๆ ต่างจากปัจจุบันที่โลกทันสมัยและเปลี่ยนไปจากเดิมมาก ๆ กฎเกณฑ์บางอย่างที่เคยเข้มงวดก็ถูกผ่อนหนักให้กลายเป็นเบา แต่ก็ยังคงเหลือเอาไว้บางข้อให้ปฏิบัติตามเหมือนเดิม รายละเอียดบางอย่างที่ถูกอบรมให้กับเด็กรุ่นใหม่ เมื่อโลกมีการเปลี่ยนแปลงทุกอย่างที่เคยมี ก็เริ่มจางหายไปเป็นเรื่องธรรมดา พฤติกรรมการปฏิบัติตัวก็เช่นกัน
พวกเราเชื่อว่าการมีมารยาทที่ดี หรือการปฏิบัติตัวดีเป็นสิ่งที่ทุกคนควรมีและทำตามไม่ใช่แค่เจ้าหญิงเท่านั้น ทุกอย่างที่เราประพฤติและแสดงออกมักจะเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงตัวเรา ดังเช่นตัวอย่างที่เรานำมาแบ่งปันให้ได้รับชมในวันนี้
1. อย่าเอนหลังบนเก้าอี้ของคุณ
ท่าทางการนั่งก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างมากที่ควรปฏิบัติให้ถูกต้อง นอกจากจะเป็นสิ่งที่สามารถบอกตัวตนของคุณผู้หญิงทั้งหลายได้แล้วนั้น ยังเป็นการสร้างบุคคลิกภาพที่ดีให้น่ามองอีกด้วย สำหรับผู้หญิงแล้วการนั่งบนเก้าอี้ควรอยู่ตรงกลางเว้นช่องว่างระหว่างเก้าอี้กับหลัง และควรนั่งตัวตรงแต่อยู่ในท่าทางที่สบายและดูเป็นอิสระ มีการเว้นระยะห่างจากโต๊ะเล็กน้อย ตัวอย่างดังภาพด้านบน
2. อย่ากลัวการที่จะทำงาน
ผู้หญิงโดยส่วนมากเขาจะไม่กลัวการลงมือทำงานด้วยตัวเอง แม้แต่การใช้แรงก็เช่นกันพวกเธอเป็นดั่งวีรสตรีที่แข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็นสมัยก่อน หรือสมัยนี้ก็ตาม ผู้หญิงจะถูกมองเป็นเพศที่อ่อนแอต้องการที่พึ่งพาอาศัย ทั้งที่จริงผู้หญิงเป็นคนที่ทำอะไรเองได้ตั้งหลายอย่างและพึ่งพาตนเองได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นงานง่าย ๆ หรือแม้แต่งานยากในบางครั้งก็ลงมือทำด้วยตนเองจนสำเร็จ
3. ปฏิบัติตามกฎการแต่งหน้า
สำหรับผู้หญิงแล้วถ้าวันไหนสีของอายแชโดว์บนเปลือกตาของพวกเธอมีสีเข้ม ในวันนั้นคุณจะไม่มีทางเห็นลิปสติกสีแดงเข้มจากปากพวกเธอแน่นอน การแต่งหน้าก็มีกฎและขั้นตอนการปฏิบัติเช่นกัน เพื่อเพิ่มเอกลักษณ์และความสวยงามที่ดูเหมาะสมให้กับใบหน้าของคุณผู้หญิงทั้งหลาย หากทุกอย่างแน่น หรือเต็มไปหมดมันก็ไม่ได้ทำให้ดูสวยงามอย่างที่ต้องการ การเรียนรู้เทคนิคใหม่ หรือตามยุคสมัยให้ทันก็น่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้ผลลัพธ์ออกมาดูดีได้ไม่น้อยเช่นกัน
4. เคารพตัวเอง และให้เวลากับตัวเองบ้าง
ในบางครั้งที่เราไม่ได้ออกไปไหน อยากอยู่บ้านให้สบายใจ แต่บางครั้งก็มักจะมีแขกที่เข้ามาเยี่ยมเยือนแบบที่ไม่ได้นัดหมายเรามาก่อน และเราก็สามารถอนุญาตให้ตัวเองพบเขาในสภาพที่ใส่เสื้อคลุมอาบน้ำ หรือชุดนอนที่สวมใส่อยู่ก็ได้ แต่พวกเรามีอีกหนึ่งเคล็ดลับที่อยากจะแนะนำเป็นสิ่งที่สุภาพสตรีชาวอังกฤษใช้เป็นประจำคือ เมื่อมีแขกที่ไม่ได้นัดเธอล่วงหน้ามาเยือนถึงหน้าประตูบ้าน เธอมักจะสวมรองเท้า สวมหมวก และคว้าร่ม หากเธอยินดีที่ได้พบกับผู้มาเยี่ยมเธอจะพูดว่า “โชคดีมาก ๆ ที่ฉันเพิ่งกลับมาถึงบ้าน” และถ้าหากเธอไม่ต้องการที่จะพบเธอจะพูดว่า “ช่างน่าเสียดายเหลือเกิน ฉันต้องออกไปข้างนอก !”
5. อย่าวางโทรศัพท์ของคุณบนโต๊ะ
ในโลกปัจจุบันเป็นยุคที่ทุกคนใช้สมาร์ทโฟนเป็นเหมือนอวัยวะที่ 33 ของร่างกาย และมีข้อมูลส่วนตัวจัดเก็บในมือถือมากมาย ดังนั้นจึงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ผู้หญิงโดยส่วนใหญ่จะไม่ค่อยนำมือถือของตัวเองวางบนโต๊ะ นอกจากจะเป็นการเก็บซ่อนข้อมูลส่วนตัวของเธอเอาไว้จากคนแปลกหน้าแล้ว ก็ยังช่วยให้เธอไม่ลืมทิ้งไว้ตรงนั้นในขณะที่รีบและลุกออกจากโต๊ะทันที
6. รู้กฎของการติดต่อ
การเรียนรู้กฎการส่งข้อความติดต่อสื่อสารกับผู้คน ในบางครั้งเราต้องรู้จักการเว้นระยะการติดต่อบ้าง เพื่อให้อีกฝ่ายรู้ว่าเราเองก็มีเรื่องส่วนตัวที่ต้องทำเช่นกัน หากไม่ใช่ในกรณีที่จำเป็นที่จะต้องตอบกลับไปทันทีเลย และอีกอย่างคนที่รู้จักคุณดีจะรู้ว่าถ้าเรื่องนั้นจำเป็นจริง ๆ ก็สามารถโทรหาได้ทันทีเลย แต่ข้อความที่ส่งมาถึงเธอจะถูกตอบกลับก่อน 20 นาทีอยู่แล้วเพื่อไม่เป็นการเสียมารยาท
7. อย่าเอามือของคุณจับที่เอวของตัวเอง
การที่คุณเอามือทั้งสองข้างมาวางบนสะโพกนั้น คือท่าทางที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่ค่อยทำกัน มันดูไม่ค่อยเหมาะสม หากคุณไม่รู้ว่าควรทำท่าทางแบบไหนในขณะที่ต้องยืน เราแนะนำให้นำมือทั้งสองมาประสานกันไว้จะดีกว่า ดังนั้นจึงต้องวางตำแหน่งของมือกับร่างกายให้สอดคล้องกันด้วย เพื่อให้คุณดูสุภาพ และมีมารยาท
8. ใช้คำชื่นชมในการตอบกลับไป
ในการตอบกลับข้อความก็ควรเลือกใช้คำที่เหมาะสมทำให้ไม่ดูเป็นการเยินยอมากเกินไป แต่ก็ต้องคำนึงถึงความรู้สึกที่คนรับข้อความเขาจะได้อ่านบทความนี้ด้วย ชื่นชม หรือขอบคุณอย่างพอเหมาะ ไม่เช่นนั้นความหมายที่คุณจะสื่อสารออกไปอาจลดความหมายนั้นลงได้
9. อย่าหันกลับไปมอง หากเสียงที่คุณได้ยินนั้นไม่ใช่การกล่าวถึงคุณ
ผู้หญิงที่มีมารยาทเมื่อได้ยินคำว่า เฮ้ ! บนท้องถนนจะไม่หันหลังกลับเพื่อมองคนที่อุทานคำนี้ หากเป็นคนเเปลกหน้าที่ต้องการจะทักคุณ หรือคุณทักเขาควรจะใช้คำที่ดูสุภาพมากกว่านี้ เช่นคำว่า “ขอโทษค่ะ/ครับ” ในการกล่าวทักทายคนที่คุณไม่คุ้นเคย หรือแม้แต่คำว่า “สวัสดี” จะดูเหมาะสมยิ่งกว่าเมื่ออยากเริ่มต้นบทสนทนากับคนที่ไม่รู้จัก
ที่มา : brightside
