ภาพที่แสดงให้เห็นว่า “กาลเวลา” เปลี่ยนแปลงทุกสิ่งไปมากแค่ไหน

ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ไม่มีสิ่งใดที่จะจีรังยั่งยืนหรือเหมือนเดิมไปได้ตลอด ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ หรือสิ่งของ ที่เมื่อเวลาผ่านไปก็ย่อมเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมทั้งสิ้น ถึงแม้ว่าสิ่งเหล่านั้นจะไม่ได้ถูกใช้งานเลย แต่มันก็มีอายุในตัวของมันเอง อย่างกับคำพูดที่ว่า ” ไม่มีอะไรที่สามารถอยู่เป็นอมตะค้ำฟ้าได้ ”

วันนี้เราขอพาทุกท่านไปชมภาพที่จะแสดงให้เห็นว่า “กาลเวลา” สามารถเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่างไปมากแค่ไหน ถ้าพร้อมแล้วเราไปดูกันเลย

1. ภาพความแตกต่างของพลั่ว ที่พลั่วด้านขวาใช้ปลูกต้นไม้มากว่า 90,000 ต้น จนมันสึกกร่อนหายไปหลายเซนติเมตร

2. สิ่งที่เกิดขึ้นกับผลงานศิลปะในพิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่ง ที่ครึ่งหนึ่งมีกระจกกั้นและอีกครึ่งหนึ่งไม่มีกระจกกั้นจึงทำให้ผู้คนสามารถสัมผัสได้ 

3. ภาพเปรียบเทียบระหว่างกระเป๋าเงินที่ใช้งานมานานกว่า 12 ปี และกระเป๋าเงินใบใหม่

4. รูปปั้นสุนัขตัวนี้ทรุดโทรมลงจากผู้คนที่มาสัมผัสมันมาหลายปี

5. ป้ายห้อยคอสุนัขอันใหม่เทียบกับที่ใช้งานมากว่า 3 ปี

6. เจ้าเหมียวที่ชอบวิ่งเล่นบนสนามหญ้า แต่ความแปลกก็คือมันชอบวิ่งไปตามเส้นทางจุดเดิม ๆ จนเกิดเป็นร่องรอยสำหรับมันโดยเฉพาะ

7. สภาพของช้อนคนกาแฟที่ถูกใช้งานมาเป็นเวลานาน

8. พื้นในร้านแห่งหนึ่งที่เปิดมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2467 และมีลูกค้าจำนวนมากที่เดินเหยียบย่ำบริเวณนี้ทุกวัน จนทำให้เกิดเป็นร่องแบบนี้

9. สภาพของเสาที่ผู้คนมักจะมาพิงเป็นประจำ

10. รองเท้ารุ่นเดียวกัน แต่มีอายุต่างกัน 6 ปี 3 ปี และเพิ่งชื้อมาใหม่

11. หินเหล่านี้ถูกน้ำฝนหยดลงมาที่เดิมเป็นเวลากว่า 700 ปี 

12. ตุ๊กตาหมีตัวใหม่เทียบกับตุ๊กตาหมีที่ถูกกอดมานานกว่า 24 ปี

13. นี้ไม่ใช่เสื้อมัดย้อม แต่มันเป็นเสื้อสีดำที่โดนแดดเป็นระยะเวลานานหลายปี 

14. มีดที่ถูกใช้งานมานานจนใบมีดแทบไม่เหลือ ครั้งหนึ่งมันเคยมีขนาดที่เท่ากับเล่มด้านขวา

15. ชิ้นส่วนของกำแพงที่ถูกคลื่นซัดเป็นเวลานาน จนทำให้มีรูปทรงคล้ายกับก้อนหิน

16. ซองพลาสติกใสที่ถูกใส่บัตรพนักงานเป็นเวลานาน จนรูปบนบัตรติดไปกับพลาสติก

17. พื้นปูนในอ่างล้างมือแห่งหนึ่ง มีร่องรอยการกดสบู่มาล้างมือสะสมกันเป็นเวลานานหลายปี จนเผยให้เห็นพื้นปูนด้านใน

18. จุดโปรดของสุนัขตัวนี้ ที่มักจะออกมาชมวิวนอกประตูรถยนต์จุดเดิม ๆ ทุกครั้ง จนเกิดร่องรอยขูดขีดที่ข้างรถ

19. ภาพร่องรอยที่แสดงให้เห็นว่าผู้คนชอบเอามือไปจับตรงไหนมากที่สุด

ที่มา : brightside