มันต้องมีซักครั้งแหละที่เราขี้เกียจทำอะไรซักอย่าง และความขี้เกียจนี่เรียกว่าเป็นศัตรูตัวฉกาจของความสำเร็จในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นด้านการเรียน หรือการทำงาน เราจะมีวิธีการฝึกใจอย่างไรให้เอาชนะความขี้เกียจนี้ได้ เรามาดูเป็นบทความดีๆ มีสาระ ให้ประโยชน์ต่อชีวิต จากเพจคุณ พศิน อินทรวงค์ กับวิธีขับไล่ความขี้เกียจที่เร็วและได้ผลที่สุดในโลก!!!
#คำถาม…
ผมพยายามดึงตัวเองขึ้นจากตัวตนที่เกียจคร้าน แต่ยังมองไม่เห็นความสำเร็จเลย มันเหมือนไม่มีแรงบันดาลใจที่จะทำ ประเด็นสำคัญที่สุดคือผมจมอยู่กับความทุกข์ทรมานใจอยู่ตลอดเวลา ไม่รู้จะจัดการตัวเองอย่างไรดี เคยปรึกษานักจิตวิทยา และคำตอบที่ได้จากคนเหล่านั้นก็ดูจะเป็นคำตอบกลาง ๆ ซึ่งเรื่องพวกนี้ผมก็รู้อยู่แล้ว เกิดความรู้สึกว่ายังไม่น่าจะช่วยอะไรได้ ทุกวันนี้ความทุกข์ทรมานใจส่งผลถึงร่างกาย บางครั้งกินอะไรไม่ลง รู้สึกว่าตัวเองท้องไส้ปั่นป่วน หงุดหงิดง่าย จมอยู่ในกองทุกข์ พยายามหาที่พึ่งไปเรื่อย ใครพูดถึงหมอดูว่าที่ไหนแม่นยำ ก็คิดอยากจะลองซักหน่อยว่าจะเจ๋งจริง จนสามารถแก้ปัญหาของเราได้หรือเปล่า ที่ร่ายมาซะยาวก็เพื่อจะบอกว่าตอนนี้ผมก็เห็นคุณเป็นเหมือนหลักเกาะอีกอันหนึ่ง หรือจะพูดให้ดูเว่อร์ต้องบอกว่าเหมือนฟางอีกเส้นที่ลอยน้ำมา และผมก็ไม่มีอะไรจะคว้าไว้อีกแล้ว ผมอยากขอคำปรึกษาว่า ผมต้องทำไงดีเพื่อจะออกจะสภาวะชีวิตแบบนี้ครับ…
#ตอบ…
1. วงจรชีวิต คุณเคยสังเกตไหมครับว่า ชีวิตคนแต่ละคนนั้นจะมีวงจรเป็นของตนเอง คำว่าวงจรนี้ คือกิจกรรมที่ทำซ้ำๆกันในแต่ละวัน เช่นคุณตื่นกี่โมง ตื่นมาแล้วทำอะไร เดินทางด้วยอะไรรถยนต์ เรือ หรือมอเตอร์ไซค์ ชอบรับประทานอะไรแบบไหน คุยกันใครบ่อยๆ กลับมาบ้านแล้วทำอะไร อาบน้ำเมื่อไหร่ ก่อนนอนทำอะไร และนอนกี่โมง ทั้งหมดนี้คือความหมายของคำว่าวงจรชีวิต
2. วงจรชีวิตนั้น ส่งผลต่อชีวิตทั้งทางตรง และในแง่จิตวิทยากับคนเรามาก ถ้าคนออกแบบวงจรชีวิตผิด ชีวิตก็จะกลายเป็นชีวิตที่ไร้ประสิทธิภาพไปอย่างน่าเสียดาย
3. ตอนนี้คุณยังไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่องงานมากนัก เพียงแค่รักษาสมดุลของงานไว้อย่าให้เสียหายไปมากกว่านี้ พักเรื่องความกังวลเรื่องงานไว้ก่อน แล้วกลับมาสนใจสิ่งที่เป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตประจำวัน เพราะคุณต้องสร้างรากฐานให้ดีก่อน ผมอยากให้คุณออกแบบวงจรชีวิตซะใหม่ โดยเฉพาะ เวลาตื่น และเวลานอน คุณต้องลองปรับเวลาตื่น และนอนเสียใหม่ แล้วใส่กิจกรรมบางอย่างลงไปในชีวิตเพื่อเพิ่มความสนุก สดชื่น เช่นออกกำลังกาย พยายามนอนให้เร็ว(ไม่เกินสี่ทุ่ม) และตื่นให้เช้าขึ้น(ตีห้าเป็นอย่างน้อย) แล้วออกวิ่งสักครึ่งชั่วโมง จากนั้นกลับมาอาบน้ำ แล้วลงมือทำหน้าที่ต่างๆ ในชีวิตประจำวันต่อไป
4. การออกแบบวงจรชีวิตใหม่ แบบกระทันหัน ตรงนี้เป็นการทำลายวงจรร้ายๆ ที่มันกัดกินชีวิตของคุณให้ปั่นป่วน เพราะความขี้เกียจของคุณมันจะเกิดอาการงงว่าเกิดอะไรขึ้นกับมัน มันจะไม่มีที่เกาะชั่วคราว และคุณต้องทำซ้ำๆๆๆๆ รูปแบบชีวิตจะถูกเปลี่ยนใหม่ทั้งหมดด้วยการทำเช่นนี้ ถ้าคุณทำแบบนี้ความเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นได้ชัดมาก
5. ในเรื่องของอาหาร คุณมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนใหม่ กินแต่พอสมควร ไม่มาก ไม่น้อย อย่ารับประทานอาหารพวกแป้ง และไขมัน การกินที่มีระเบียบ จะส่งผลต่อความกระตือรือล้นของร่างกาย ร่างกายจะตื่นตัวขึ้น และยังส่งผลเชิงจิตวิทยาต่อการนับถือตนเองของคุณอีกด้วย
6. ความขี้เกียจ นี่มีสิ่งที่มันกลัวอยู่ ขอให้คุณสร้างความประหลาดใจให้ตัวเองให้ตัวเองรู้สึกว่า “ฉันก็ทำได้” โดยการฝืนทำงานให้เสร็จในทันที ในครั้งแรกนี้ ขอให้คุณทำงานแบบสายฟ้าผ่า คือทำทันทีทั้งๆที่ขี้เกียจ ให้ความขี้เกียจมันเกิดอาการช็อคว่า “เฮ้ย!! นี่มันเกิดอะไรขึ้น” ถ้าคุณทำได้ คุณจะเกิดความฮึกเฮิมว่าคุณเอาชนะมันได้
7. มีอีกอย่างที่คุณควรทำทุกวัน ขอให้คุณนั่งสมาธิอย่างน้อยก่อนนอนวันละ 15 นาที ตรงนี้จะส่งผลต่อคุณอย่างมหาศาล ทั้งในแง่จิตวิทยา และการสร้างพลังจิตใจของคุณ ขอให้ทำแม้ว่าจะนั่งแล้วไม่สงบ ทำแม้ว่าจะเบื่อ ทำแม้ว่าจะขี้เกียจ ไม่ต้องสนใจว่าคุณจะได้อะไรจากการนั่งสมาธิ ขอให้คุณว่า นี่คือการส่งสัญญาณบางประการต่อจิตวิญญาณของคุณ และจิตวิญญาณเบื้องลึกของคุณจะรับรู้ได้ และเกิดแสงสว่างขึ้นมาจากภายใน เป็นการอัดฉีดกำลังใจเข้าไปในจิตวิญญาณของคุณ
8. ความร้ายกาจที่สุดของคนเราก็คือการหมดหวัง คุณต้องไม่หมดหวังที่จะเปลี่ยนแปลงตนเอง ขอให้ทำทุกข้อตามที่ผมบอกอย่างเคร่งครัดติดต่อกันไปเรื่อยๆ อย่างน้อย 15 วัน และทำอย่างต่อเนื่องจนเป็นนิสัย เริ่มจากทำลายวงจรชีวิตเดิมๆ ให้กระเจิง พยายามเปลี่ยนแปลงชีวิตประจำวันให้ต่างออกไปในทุกมิติ ทำแบบกระทันหัน ทำแบบสายฟ้าฟาด ให้ความขี้เกียจมันเกิดอาการช็อคจนจำบ้านตัวเองไม่ได้!!! ทำชีวิตประจำวันให้มันต่างจากเดิมให้เร็วที่สุด ยิ่งต่างยิ่งดี จากนั้นคุณต้องเริ่มดูแลตนเองเรื่องการกิน เปลี่ยนเวลาตื่น นอน แล้วเริ่มทำสมาธิวันละ 15 นาที จากนั้นให้คุณกลับมาที่เรื่องงานซึ่งเป็นปัญหา ในครั้งแรกขอให้คุณจงทำงานของคุณทันที ทำงานให้เสร็จในระยะเวลาที่เร็วที่สุด เพราะคุณต้องสร้างความประลาดใจให้ตนเอง เพื่อให้จิตวิญญาณของคุณมีภาวะเชื่อมต่อกับความสำเร็จ จนจิตวิญญาณของคุณสามารถบอกกับตัวเองได้ว่า
“เฮ้ย เรานี่มันก็สุดยอดเหมือนกัน เรานี่มันไม่ธรรมดา สุดยอดๆๆๆ”
9. กิเลสหรือความขี้เกียจคือหนู วิธีไล่หนูมีอยู่สองแบบ วิธีที่หนึ่ง คือการจับหนู จับไปจับมา หนูมันก็จะมาอีก ถ้าบ้านคุณรก วิธีที่สอง คุณไม่ต้องไปสนใจจับหนู แต่คุณไปจัดบ้านของคุณให้สะอาด ให้เป็นระเบียบ ทิ้งของบางอย่างที่รกๆ แล้วเพิ่มของบางอย่างที่ง่ายและสวยงามเข้าไป บ้านในที่นี้ก็คือวงจรชีวิตของคุณ ซึ่งคุณจะต้องจัดใหม่โดยเร็ว เพื่อที่ว่า หนูมันจะได้ย้ายออกไป ไม่สนใจมาอยู่ในบ้านของคุณอีก ที่ผ่านมา คุณพุ่งเป้าไปที่เรื่องของการไล่หนู คือไล่ความขี้เกียจ แต่คุณไม่ได้สนใจที่จะเปลี่ยนวงจรชีวิต ซึ่งมันง่ายและได้ผลมากกว่า ผมพูดแบบนี้คิดว่าคุณคงเห็นภาพ และเข้าใจได้ไม่ยากนัก
10. ผมดีใจที่ได้ตอบคำถามนี้
และขอเป็นกำลังใจให้คุณสามารถเปลี่ยนแปลงเป็นคนใหม่ได้ในเร็ววัน
คุณทำมันได้แน่นอนขอให้เชื่อมั่น และแน่วแน่
สู้นะครับ อย่าไปยอมแพ้มันเด็ดขาด!!!
คุณจะรู้สึกเบื่อ และไม่อยากทำมันเมื่อต้องทำ เช่นการตื่น การนอน การกิน แต่คุณต้องงัดตัวเองออกมาจากเตียงให้ได้ ตรงนี้ต้องฝืนใจทำให้สำเร็จ แล้วสิ่งดีๆ จะถาโถมเข้ามาสู่ชีวิตของคุณอย่างไม่ขาดสาย…
ขอบคุณที่มา : พศิน อินทรวงค์
ติดตามข่าวสารอีกมากมายได้ที่ อ่อนแอ