10 สาเหตุที่คุณควรหยุดพฤติกรรมการชาร์จแบตในรูปแบบนี้โดยถาวร

การชาร์จแบตโทรศัพท์มือถือที่คุณทำเป็นประจำ คุณอาจจะยังไม่รู้ว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องและไม่ควรทำ เพราะการชาร์จแบตโทรศัพท์อย่างผิดวิธีแม้แต่ข้อเดียว สามารถทำให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่สั้นลงและเสื่อมสภาพได้ง่ายดาย นอกจากนี้ยังสามารถเกิดอันตรายที่นำความเสียหายถึงขั้นชีวิตของคุณได้

พวกเรามีเคล็ดลับที่นำมาแบ่งปันให้กับทุกคน เพื่อให้ทุกคนสามารถทำการชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือได้อย่างถูกวิธี และเป็นการหลีกเลี่ยงอันตรายที่จะเกิดขึ้น

1. คุณเสียบที่ชาร์จไว้กับปลั๊กเสมอ

การเสียบที่ชาร์จเเบตเอาไว้กับปลั๊กเสมอแม้ไม่ได้ใช้งานส่งผลเสียให้มากกว่าที่คุณคิด การที่เสียบปลั๊กเอาไว้เช่นนี้ แม้ไม่ได้เอาโทรศัพท์มาเสียบชาร์จแต่การส่งพลังกระแสไฟฟ้ามาตามสายยังคงอยู่ และในบางครั้งอาจก็เกิดเป็นความร้อนสามารถระเบิดรุกเป็นไฟเผ้าไหม้สิ่งรอบตัวได้ หรือที่เรียกกันว่าไฟฟ้าลัดวงจร

ข้อแนะนำเพิ่มเติม : หากคุณไม่ได้ใช้งานสายชาร์จต่าง ๆ ควรถอดปลั๊กออกให้หมด เพื่อความปลอดภัย

2. ชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็ม 100 % 

รู้หรือไม่ว่าการชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์เต็ม 100 % เป็นวิธีที่ผิดจะทำให้อายุการใช้งานของโทรศัพท์คุณสั้นลงจากเดิม  เนื่องจากแบตเตอรี่ทุกก้อนจะมีความจำที่แม่นยำในจำนวนวรอบของการชาร์จ ถ้าหากคุณชาร์จแบตให้เต็มทุกรอบนั้นก็หมายความว่าวงจรอายุการใช้งานของแบตเตอรี่จะสิ้นสุดได้เร็วขึ้น

**เพื่อรักษาระยะเวลาของการใช้งานโทรศัพท์ให้มีระยะยาวขึ้น คุณควรชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์ในจำนวนครั้งส่วนมากให้ได้ 80-98 % เท่านั้นพอ และควรจะเก็บแบตเตอรี่เอาไว้อย่างน้อย 20 % ในหนึ่งเดือนควรชาร์จให้เต็ม 100 % เพียงเดือนละ 1-2 ครั้งเท่านั้น

3. ปล่อยแบตเตอรี่โทรศัพท์ให้หมดก่อนถึงจะชาร์จ

การปล่อยให้แบตเตอรี่หมดก่อนถึงค่อยชาร์จไม่ได้ส่งผลดีต่อโทรศัพท์มือถือของคุณเลย แถมเป็นการทำลายให้อายุการใช้งานสั้นลงอีก ดังนั้นการที่จะเริ่มชาร์จแบตใหม่อีกครั้งไม่ควรปล่อยให้แบตเตอรี่เหลือน้อยไปถึงขั้น 0 % แบบนี้ไม่ดีแน่

4. คุณชาร์จโทรศัพท์แบบข้ามคืน

หากคุณเป็นหนึ่งคนที่ชอบชาร์จแบตในขณะนอนหลับและปล่อยให้แบตเตอรี่เต็มทิ้งไว้แบบนั้นหลายชั่วโมง นอกจากจะเปลืองค่าไฟฟ้าแล้ว แบตเตอรี่โทรศัพท์ของคุณยังจะเสื่อมสภาพได้ง่ายขึ้นอีกด้วย และอีกหนึ่งเหตุผลหลัก ๆ ที่ห้ามชาร์จแบตเตอรี่ทิ้งไว้ทั้งคืน คือมันจะทำให้โทรศัพท์ของคุณร้อนเกินไปซึ่งสามารถทำให้ระเบิดได้ เกิดไฟฟ้าลัดวงจรไฟสามารถไหม้บ้านของคุณได้ ถ้าคุณรู้แบบนี้แล้วควรหยุดการทำแบบนี้เอาไว้โดยด่วน

5. ใช้โทรศัพท์ในขณะที่กำลังชาร์จ

อย่างแรกคือคุณไม่ควรใช้งานโทรศัพท์มือถือจนแบตเตอรี่หมด และสิ่งที่ไม่ควรทำอีกอย่างคือชาร์จแบตเตอรี่ไปใช้งานโทรศัพท์ไปพร้อมกัน ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง เพราะมันจะเป็นการทำงานทั้งสองอย่างพร้อมกันทำให้โทรศัพท์ของคุณรู้สึกว่ากำลังถูกใช้งานอย่างหนัก (ในเวลาที่มีสายเข้าคุณควรถอดสายชาร์จออกก่อนถึงค่อยรับโทรศัพท์)

6. คุณชาร์จโทรศัพท์แม้แบตเตอรี่จะสูงกว่า 20 % 

การชาร์จโทรศัพท์เอาไว้อย่างต่อเนื่องเป็นวิธีที่ผิด ดังนั้นวิธีการชาร์จที่ดีที่สุดคือการชาร์จแบตเตอรี่ที่ต่ำกว่า 20 % แต่ต้องไม่ต่ำกว่า 5 %

7. ควรถอดเคสออกในขณะที่กำลังชาร์จ

การชาร์จแบตทำให้เกิดความร้อน และความร้อนในบางครั้งก็เป็นอันตรายให้พบกับความสูญเสียมากมาย เพื่อให้โทรศัพท์ของคุณไม่กักเก็บความร้อนจนเกินไป แนะนำให้ถอดเคสออกทุกครั้งที่ชาร์จแบตเตอรี่

8. คุณยังคงใช้งานที่ชาร์จทั่วไปและราคาถูก

โทรศัพท์ทุกรุ่นมาพร้อมกับที่ชาร์จที่เหมาะสมกับมือถือ คุณไม่ควรเปลี่ยนใช้ที่ชาร์จอันอื่น การใช้ที่ชาร์จโดยทั่วไปที่มีอยู่ไม่ใช่สิ่งที่ดี เพราะการรับส่งพลังงานที่เข้าไปสู่โทรศัพท์ของคุณอาจจะไม่ได้ทำงานเต็มประสิทธิภาพหลายอย่าง ซึ่งก่อให้เกิดสาเหตุต่าง ๆ มากมาย ในบางครั้งก็ทำให้เกิดความร้อนสูงไปหรือบางครั้งก็ทำให้ชาร์จช้าไป ทางที่ดีควรใช้ของที่มาพร้อมกับโทรศัพท์ดีกว่า หากอันนี้พังควรจัดซื้อตามศูนย์ที่เป็นของแท้ราคาแพงหน่อยแต่ประสิทธิภาพย่อมดีกว่า

9. การใช้แอพแบตเตอรี่อื่นที่ไม่ได้มาพร้อมกับโทรศัพท์

แม้แอพฟรีจะมีประโยชน์กับคุณในการใช้ติดตามประสิทธิภาพของแบตเตอรี่โทรศัพท์คุณ แต่การใช้แอพมีข้อดีย่อมมีข้อเสียเสมอ ซึ่งแอพที่คุณโหลดมาไม่รู้แหล่งพัฒนาสร้างมาจากใครที่ไหน ก็สามารถทำลายแบตเตอรี่ของคุณลงได้ไม่เชื่อลองสังเกตโทรศัพท์มือถือของคุณที่มีแอพฟรีนี้ได้

10. คุณชาร์จโทรศัพท์จากโน๊ตบุ๊ค

หากคุณใช้โน๊ตบุ๊คชาร์จมือถือแค่ในสถานการณ์ฉุกเฉินบางครั้งคงไม่ส่งผลเสียมากเท่าไหร่ แต่การใช้งานเป็นประจำคงไม่เหมาะสมแน่นอน เพราะการชาร์จจากโน๊ตบุ๊คจะเป็นการทำงานที่ช้ากว่าปกติ

ที่มา : brightside